คำแนะนำที่ดีที่สุดคือลองใช้ โชคดีที่เราพบความเป็นไปได้ในการส่งคืนผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเวลา 14 วันหากซื้อที่ Apple หรือร้านค้าเช่น Amazon ดังนั้นในท้ายที่สุดคุณสามารถเลือกได้ก่อนและหากช่วงเวลานั้นผ่านไปคุณไม่มั่นใจว่าคุณสามารถลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นได้
เปรียบเทียบสเปค iPad Pro VS iPad 2018 เลือกอะไรดี?
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา สำหรับ iPad Air (2019) ไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10. 5 นิ้ว และถือว่า เป็นรุ่นที่มาแทน iPad Pro หน้าจอ 10. 5 นิ้ว ที่ถูกถอดออกจาก Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย iPad Air (2019) นั้นเปิดตัวที่ราคา 17, 900 บาท ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ iPad mini 5 (iPad mini 2019) กับ iPad (2018) ถือว่ามีราคาสูงกว่าเล็กน้อย มาดูกันดีกว่าว่า ถ้าหากเปรียบเทียบสเปกระหว่าง iPad Air (2019) กับ iPad (2018) รุ่นราคาประหยัด จะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน SPONSORED สรุปความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่าง iPad Air (2019) และ iPad (2018) iPad Air (2019) มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าที่ 10. 5 นิ้ว ซึ่งเป็นจอภาพแบบ Lamination และการแสดงผลแบบ True Tone ส่วน iPad (2018) มีขนาดหน้าจอที่ 9. 7 นิ้ว iPad Air (2019) มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A12 Bionic (ชิปตัวเดียวกับ iPhone XS Max) พร้อม Neutral Engine ส่วน iPad (2018) มาพร้อมชิปเซ็ต Apple A10 Fusion iPad Air (2019) มีขนาดความจุให้เลือกสูงสุด 256 GB ส่วน iPad (2018) สูงสุดแค่ 128 GB ทั้ง 2 รุ่นรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 แต่ iPad Air (2019) รองรับการใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard (รุ่น 10.
9 นิ้วทำได้อย่างยอดเยี่ยม. ไม่ใช่ว่าด้วย iPad Pro รุ่น 11 นิ้วคุณจะทำไม่ได้เนื่องจากเป็นไปได้ที่จะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน อัตราส่วนภาพที่ยังคงอยู่บนหน้าจอนั้นเทียบเท่ากัน แต่จะเห็นได้ชัดว่ามันดูเล็กลง นี่เป็นข้อเสียเปรียบสำหรับฉันเมื่อฉันมี iPad เครื่องเล็กเนื่องจากฉันมักจะล้มเลิกการทำงานกับ iPad เพื่อสนับสนุน Mac เพียงเพราะฉันไม่เบื่อสายตาหรือต้องใช้นิ้วขยายหน้าต่าง Safari การแก้ไขรูปภาพมีความแม่นยำมากขึ้น ฉันอยากจะให้คะแนนกับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้วจริงๆและฉันมั่นใจว่าในส่วนถัดไปมันจะดึงบางส่วนจากรุ่นใหญ่ แต่ความจริงก็คือในสิ่งนี้ฉันต้องเลือกใช้ 12.
ปัจจุบันมี วิดีโอเกมสำหรับ iPad เข้ากันได้กับการควบคุมดังกล่าว เป็น Xbox หรือ PlayStation และใช่เล่นขนาด 12. 9 นิ้วขอบคุณมาก สิ่งที่ฉันทำคือวางไว้บนขาตั้งหรือบน Magic Keyboard แล้วสนุกกับเกมของฉันบนขนาดหน้าจอที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้คลาดสายตา แต่สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปเมื่อเราพูดถึง เกมที่ต้องสัมผัสหน้าจอ. ในสิ่งเหล่านี้ฉันพลาดขนาด 11 นิ้วเนื่องจากการถือ iPad ไว้ในมือของคุณทำให้รู้สึกอึดอัดยิ่งขึ้นดังนั้นหากเกมต้องการการควบคุมอย่างต่อเนื่องด้วยนิ้วของคุณบนหน้าจอ ฉันยืนยันว่าฉันไม่ใช่ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและเกมของฉันไม่ได้ใช้เวลารวมฉันมากกว่า 2 ชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์ แต่ถ้าคุณมีโปรไฟล์ที่พัฒนาขึ้นในด้านนี้คุณอาจต้องให้ความสำคัญกับแง่มุมนี้ ชอบ iPad Pro รุ่น 11 นิ้วเป็นอย่างมาก อุปกรณ์เสริมบางอย่างมีราคาที่แพงกว่า ตามที่ได้รับคำแนะนำมาตลอดบทความนี้สิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือรุ่น 12.
5 x สูง 240 x หนา 7. 5 มิลลิเมตร มีน้ำหนักรวมทั้งหมดโดยประมาณที่ 478 กรัม โดยวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ สีทอง, สีเทา และสีเงิน Space Gray ในขณะที่ iPad Pro วางจำหน่ายด้วยกันสองขนาดหน้าจอคือ ขนาด 10. 5 นิ้ว และ 12. 9 นิ้ว โดยทั้งสองรุ่นมีการปรับดีไซน์ให้มีขอบหน้าจอที่บางลง เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับหน้าจอ ทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ขยับมากนัก ซึ่ง iPad Pro รุ่น 10. 5 นิ้ว มีขนาดตัวเครื่อง กว้าง 250. 5 x สูง 174. 1 x หนา 6. 1 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 477 กรัม ส่วน iPad Pro รุ่น 12. 9 นิ้ว มีขนาดตัวเครื่อง กว้าง 305. 7 x สูง 220. 6 x หนา 6. 9 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมอยู่ที่ 692 กรัม จอและการแสดงผล ด้านการแสดงผลและขนาดหน้าจอนั้น iPad 2018 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 9. 7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล ในขณะที่ iPad Pro ทั้งสองรุ่นจะมีขนาดหน้าจอแสดงผลที่ต่างกันไปตามรุ่น คือ ขนาด 10. 5 นิ้ว ความละเอียด 2224x1668 พิกเซล และ ขนาด 12. 9 นิ้ว ความละเอียด 2732 x 2048 พิกเซล โดย iPad Pro ทั้งสองรุ่น จะมาพร้อมคุณสมบัติการแสดงผลที่เหมือนกัน คือ เป็นจอภาพแบบ Full Lamination มีเทคโนโลยี ProMotion ช่วยในการแสดงผล 3D หรือภาพเคลื่อนไหวให้สมจริง รวมทั้งยังมีการเคลือบสารกันสะท้อนแสงที่หน้าจอ ช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งได้ดี และรองรับการแสดงผลของเม็ดสีภายใต้พื้นฐานขอบเขตสีแบบ P3 ที่ใช้ในวงการภาพยนตร์ โดยทั้งหมดนี้?...
iPad 2018 ไม่มี!
Epson L3150 สี เพี้ยน, 2024