การประกอบอาชีพ นักเทคนิคการแพทย์สามารถทำงานในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ทั้งในภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานอย่างอื่นได้ เช่น เป็นตัวแทนขายเครื่องมือ-น้ำยาทางการแพทย์ หรือศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษาได้ในหลายสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์ได้ การเรียนการสอนวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ เริ่มขึ้นที่คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นแห่งแรก ในปี พ. 2500[4] โดยมีที่ทำการอยู่ 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อมาคณะเทคนิคการแพทย์ ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้โอนมาเป็นภาควิชาเทคนิคการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแยกออกมาเป็นคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ 1. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาเทคนิค การแพทย์ 2. เป็นผู้ใฝ่รู้ ติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่าง รวดเร็ว 3. ฝึกฝนตนให้มีความชำนาญในการตรวจวินิจฉัยที่ตัวผู้ตรวจเองต้องมีความรู้ในการตัดสินใจ 4. รู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ให้เหมาะสม 5. เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบในการออกรายงานผลการตรวจ 6. เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งกับผู้ที่มารับการตรวจและผู้ร่วมงานทั้งภายในและภายนอก 7. มีความสามารถในการแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานในทุกกรณีด้วยการใช้ปัญญา 8. มีคุณธรรมและจริยธรรมมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ 9. มีความสุขุมรอบคอบเยือกเย็น อดทน ชอบช่วยเหลือเสียสละ 10. ทำงานมีระเบียบแบบแผนและสามารถพัฒนาความรู้ในการทำงานให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ 11. ไม่มีความพิการหรือโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ เช่น ตาบอดสี เป็นต้น 12. มีพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในด้านเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา รวมทั้งคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี 13. มีบุคลิกดี มีความเชื่อมั่นในตนเอง สามารถปรับตัวในการทำงานและการให้ความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ 10.
น้องๆ หลายคน กำลังมองหาที่เรียนต่อ และกำลังศึกษาหาข้อมูลต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ให้กับตัวเองว่าที่จริงแล้วตัวเองชอบเรียนอะไร และเมื่อเรียนจบแล้ว จะสามารถทำงานอะไรได้บ้าง? สาขาวิชาเคมีประยุกต์ เมื่อเรียนจบแล้วสามารถทำงานได้ในหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน (จบแล้วมีงานทำแน่นอน) ยกตัวอย่างตำแหน่งงานที่คนจบเคมีทำได้นะ 1. Quality Control -- QC หน้าที่: ควบคุมการทดสอบให้ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว Skill: Chemistry 2. Quality Assurance -- QA หน้าที่: ดูแลคุณภาพสินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้า Skill: Chemistry 3. Research and Development -- R&D หน้าที่: ปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า พัฒนา product ใหม่ๆ Skill: Chemistry 4. Technical Service and Development -- TS&D หน้าที่: เหมือน QA+R&D คือ รับความต้องการของลูกค้ามาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงต้องช่วยลูกค้าแก้ปัญหาที่เกิดจากการใช้สินค้าเรา Skills: Chemistry (อาจจะต้องมีความรู้เรื่อง Engineering นิดหน่อย เพราะบางที่ต้องปรับ condition เครื่องจักร) 5. Polymer Engineer หน้าที่: มีความชำนาญด้าน polymer อย่างมาก สามารถช่วยเป็น consult ให้ R&D หรือ TS&D Skill: Chemistry (Polymer) 6.
ลงโฆษณาติดต่อได้ที่ โทร: 02-001-8800, 061-390-7800, 02-351-0087 แฟกซ์: 02-001-8804 - 05 มีปัญหาการใช้งาน วันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์: 8:00-17:00 เสาร์ 9:00-16:00
กรุงเทพฯ--7 ส. ค.
เต้ - ผศ. ดร. โรจน์ฤทธิ์ โรจนธเนศ "เอ๊ะ? แล้วมันมี เคมี แบบอื่นที่อยู่คณะอื่นๆ อย่างวิศวกรเคมี หรือ เภสัชกร มันต่างกับเอกเคมี ในคณะวิทยาศาสตร์อย่างไร" พี่เกียรติไปขอข้อมูลจาก อาจารย์เต้ ผศ.
หลายคนอาจมองการว่าเรียนวิทยาศาสตร์สายตรงอย่าง เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ เรียนจบไปก็ไม่มีงานทำ แต่จริงแล้วเป็นอย่างนั้นหรือไม่? น้องๆ ชาว Dek-D อยากรู้ไหมว่า... ถ้าชอบวิชาเคมีจนไปเรียนต่อเอกเคมีในมหาวิทยาลัย จบแล้วจะนำไปทำมาหากินอะไรได้บ้าง? พี่เกียรติไปหาคำตอบมามาเล่าให้น้องๆ ฟังแล้วค่ะ เอกเคมีในมหาวิทยาลัย เรียนอะไรบ้าง?
Epson L3150 สี เพี้ยน, 2024